เดินทางตามน้องผีออกไปทอดน่องส่องย่านในยามราตรี คละเคล้าไปกับเรื่องราวลี้ลับจากปากคนประตูผี ที่จะไม่ชวนให้คุณขนหัวลุก แต่อยากจะลุกออกมาสำรวจย่านตามน้องผี..
น้องผี และ Trawell Thailand ขอพาทุกคนออกเดินในช่วงเวลากลางค่ำกลางคืน ลัดเลาะรอบย่านประตูผี เข้าตรอกนู้น ออกซอยนี้ โผล่ถนนนั้น ไปตามเรื่องเล่าจากคนประตูผี และบรรยากาศระหว่างทางที่ไม่อาจเห็นได้ในยามกลางวัน เพื่อไปทำความรู้จักย่านในมุมใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และตีสนิทกับประตูผีในยามราตรีให้ซี้ปึก
ประตูผีจะมีผีหรือไม่เราไม่รู้ แต่ประตูผียามราตรีนั้นมีเสน่ห์และน่าหลงใหลจริง ๆ
เพราะฉะนั้นถ้าฮาโลวีนปีนี้คุณยังไม่มีแผนไปไหน เราอยากชวนให้คุณลองมาเดินเล่นที่ ‘ประตูผี’
คำเตือน
1. ควรพกอุปกรณ์ที่ให้ความสว่างไสว
2. ควรชวนใครสักคนออกมาเดินด้วยกัน : )
“ตั้งแต่ตอนพี่ท้องน้องใหม่ (ลูกสาวคนแรก) พี่เป็นลูกจ้างร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วเฮียเจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า สมัยแกหนุ่ม ๆ แถวประตูผียังไม่เจริญเท่าไร วันนั้นแกเดินกลับบ้านหลังจากไปดูหนังกลางแปลงที่วัดสุทัศน์ แกเห็นเปรตจริง ๆ ตัวสูงงงเลย ทีแรกแกก็ไม่คิดอะไร คิดว่าง่วงนอนตาฝาด แกก็เดินต่อไป พอเงยหน้ามาเท่านั้นแหละอยู่ตรงหน้าแล้ว ตัวสูงมากกกก เหมือนต้นตาลบ้านเรา ที่นี้แกก็วิ่งเลย”
เรื่องเล่าจาก : พี่แอน แม่บ้าน Once Again Hostel
สถานที่ : เสาชิงช้า
“สมัยก่อนตอนที่พี่ยังไม่เกิด แม่พี่เคยบอกว่าแถวนี้มันเคยเป็นซ่องมาก่อน คนเขาก็เจอกันบ่อย คืนนั้นประมาณตีหนึ่งกว่า ตีสอง พี่ก็พาหมาสามตัว มะพร้าว, มะปรางค์ และมะตูม ออกมาเดิน สักพักพอเดินมาถึงตรงตรอกไข่ หน้าศาลพระภูมิ ไอ้หมาทั้งสามตัวของพี่หยุด ไม่เดินต่อ พอพี่ก้าวขานึง มันก็ก้าวข้างนึง เรียงหน้ากระดานเลย ระหว่างที่ก้าวมันก็มองไปที่ศาลพระภูมิ พี่ก็แบบกูรู้ละ ดูท่าไม่ดีขนนี่เริ่มลุกละ พี่ก็บอกพวกมัน ปะ เดี๋ยวแม่พากลับ เท่านั้นแหละ วิ่งหนีพี่หมดเลยสามตัว พึ่งไม่ได้จริง ๆ เลยไอ้สามตัวนี้ พอเป็นเรื่องเล่าเหมือนว่าจะตลกนะ แต่ตอนนั้นมันไม่เลย”
เรื่องเล่าจาก : พี่ปิ่น ร้านข้าวประตูผี
สถานที่ : ตรอกไข่ (เส้นทางลัดระหว่างถนนบำรุงเมือง ถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านเครื่องสังฆภัณฑ์ กับซอยสำราญราษฎร์)
“บ้านเก่ามาก จะร้อยปีแล้วเนี่ย เราก็อยู่ที่นี่ตั้งแต่รุ่นคุณตา แต่ก่อนคุณตาเป็นพราหมณ์อยู่ที่โบสถ์พราหมณ์ เราอยู่ตรงนี้เราจะรู้ว่าเสียงอะไรเป็นอะไร แต่อันนี้มันผิดปกติไง เสียงมันวี๊ดแบบวี๊ด วี๊ดแหลม ๆ ร้องยาว ๆ เราก็ถามแม่ว่า นั่นมันเสียงอะไร แม่เราก็จะแบบ ไม่ต้องพูด เราก็หยุดพูด แค่ได้ยินเสียงเฉย ๆ ลูก แต่ความรู้สึกเราอะ มันว่าใช่ สมัยก่อนตอนเด็ก ๆ มันน่ากลัวจริง มันไม่สวยหรูแบบอย่างนี้นะ ศาลาตรงนี้ (ลานจอดรถวัดเทพธิดาราม) จะเป็นศาลาเก็บศพ เป็นศาลาไม้ แล้วก็มีต้นไม้สูง รกมาก แต่เด็กก็ยังมาเล่นตีแบต เล่นซ่อนหากันในวัด เป็นเด็กบ้านอยู่หลังกำแพงไง เราไม่มีที่เล่น เราก็เลยเข้ามาเล่นในวัด พอตกเย็น หลวงตาก็มาไล่เด็กออกเพราะเห็นว่ามืดมากมันอันตราย”
เรื่องเล่าจาก : พี่แอน ร้านรถเข็นขายน้ำ
สถานที่ : ซอยหลังวัดเทพธิดาราม
#TrawellGuide
ถ้าหากมาถึงซอยสำราษฎร์ช่วงหัวค่ำสามารถแวะทานข้าวต้มเป็ดชื่อดังทั้ง ‘เป็ดอ้วน’ ที่พวกเราได้ไป TrawellMakeover เปลี่ยนเมนูร้านอาหารข้างบ้านให้สั่งได้สั่งดี และ ‘เจี่ยอ้วน’ ที่เราพวกเคยไปจัดกิจกรรม CSR ร่วมกับบริษัท Group-M ที่กลางซอยได้ แต่ถ้ามาดึกหน่อยก็ ยังมีร้านโชห่วยอย่าง ‘หล่อเจริญ’ และ ‘Well Shop’ ร้านขายของชำ ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้อยู่รอดในและต้านทานกับร้านค้าปลีกเจ้าใหญ่ทั้งหลาย และยังคงเปิดร้านตอนรับทุกคนถึงเที่ยงคืนด้วยนะ
“ตั้งแต่เด็ก ๆ มีต้นมะเดื่ออยู่ตรงนี้ (บริเวณที่ตั้งของศาลเจ้าแม่มะเดื่อปัจจุบัน) ต้นใหญ่อย่างนั้นแหละลูก ใหญ่มาก ข้ามไปปกคลุมถึงกำแพงเลย มะเดื่อดกมากเลย คนก็เด็ดไปจิ้มน้ำพริกกัน เขาบอกว่าต้นนี้ศักด์สิทธิ์ มีเทวดาอยู่ เพราะฉะนั้นใครมาขออะไรก็ถูกกัน เขาก็เอาผ้าสีแดงมาพัน ใครเดินผ่านตรงนี้ก็ต้องสวัสดีแม่มะเดื่อ ต้นมะเดื่อตอนนั้นอะนะ ตอนกลางคืนดึก ๆ จะเป็นแสงแดง ๆ เหมือนสูบบุหรี่วาบ วาบ วาบ อยู่บนต้นไม้ คนก็บอก อย่าออกไปนะนั่นผีดุ อย่างป้าเด็ก ๆ ไม่รู้เรื่องก็จะอยู่แต่ในบ้าน ตอนที่ทำร้านเนี้ยป้าก็เป็นคนให้กาแฟหรือให้ผลไม้อะไร ป้าก็มีความรู้สึกว่าขายดีเป็นเพราะแม่มะเดื่อ พอเขาโค่นไป ป้าก็…ร้องไห้ มันเป็นความผูกพันของป้า
ตอนที่โค่นไปใหม่ ๆ คนที่เขาล้างชามตรงนี้ บ้านเขาอยู่ฝั่งธน เขากลับบ้านไปนอน เช้าขึ้นมาก็มาเล่าให้เราฟังว่า เมื่อคืนนี้มีผู้หญิงนุ่งโจงกระเบนสีเขียว นุ่งสไบสีเขียว มายืนร้องไห้ว่าไม่มีที่อยู่ แต่เขาก็ไม่นึกว่าตรงนี้ เขานึกว่าเจ้าแม่ที่บ้าน เราก็แบบ เห้ยต้องเป็นเจ้าแม่มะเดื่อแล้ว ป้าก็เลยไปซื้อมาเอง มาโบกปูน มาตั้งเลย นี่ไง ป้าก็ตั้งชื่อเองเลย ‘แม่มะเดื่อและรุกขเทวดา’ ป้าอธิษฐานให้ตั้งอยู่ในนี้ จริง ๆ ตอนที่ป้าตั้งเป็นอีกองค์แต่ใครไม่รู้มาขโมยไป”
เรื่องเล่าจาก : ป้าเอื้อง ภรรยาลุงหนวด ชาวชุมชนวัดเทพธิดาราม
สถานที่ : ศาลเจ้าแม่มะเดื่อ ชุมชนวัดเทพธิดาราม
“ส่วนมากคนที่มาจอดรถเขาเห็นกัน แต่ก่อนน่ากลัวกว่า นี่ไม่น่ากลัวแล้ว เมื่อก่อนข้างในเป็นป่าไง ตรงกำแพงนี่เป็นต้นไทรเลย อยู่นี่มา 20 ปีแล้วตั้งแต่ปี 2542 ตอนน้าอยู่ใหม่ ๆ ข้างในเป็นป่าเพิ่งมาพัฒนาไม่กี่ปีนี้เอง เมื่อก่อนมีแค่ไฟทางนิดเดียวเอง แล้วก็ไฟสลัว ๆ ทุ่มนึงตอนนั้น ถีบจักรยานมา เห็นเป็นเงานกยักษ์ตัวใหญ่ ๆ (กางแขนทั้งสองข้างเป็นท่าประกอบ) บินเหนือหัวเรา พอไปเจอแสงไฟตรงคณะสาม เขาก็ม้วนกลับเข้าโบสถ์ ตรงเจดีย์นั่นแหละ เจดีย์ตรงนั้นเลย มองขึ้นไปจะมีครุฑองค์เล็ก ๆ อยู่ เหมือนเขาจะมาดูว่าเราอยู่ที่นี่”
เรื่องเล่าจาก : ลุงโย่ง ลุงยามที่จอดรถวัดเทพธิดาราม
สถานที่ : ลานจอดรถวัดเทพธิดาราม
“สมัยนั้นช่วงอายุประมาณ 13 – 14 ซ้อมมวย วิ่งออกกำลังตอนตีสี่ตีห้า กะจะเดินเลาะทางด้านหลังวัดราชนัดดาไป อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อก่อนกำแพงเตี้ย กำแพงจะอยู่เลยหัวคนไปนิดนึง แต่นี่เดินมาแบบสูงเหนือกำแพง สูงแบบคนโบราณตัวใหญ่ ๆ อย่างเงี้ย ใครจะไปสูงขนาดนั้น สูงเลยกำแพงขึ้นมาเลย เดินอยู่ข้างใน ตรงโลหะปราสาท แหงนไปเห็นพร้อมกัน ประมาณสักสองสามคนอะ วิ่งกันหมด ยังไม่ถึงที่วิ่งซ้อมมวย ได้วิ่งก่อนเลย บางคนมันไม่เห็น เห็นเค้าวิ่งก็วิ่งกับเค้าด้วย มีผู้ใหญ่ที่คุมวิ่งไป นั่นอะ กลับมาเป็นไข้เลย คุมนักมวยวิ่งไม่กลัว แต่กลัวผี”
เรื่องเล่าจาก : พี่แจ้ พี่คนขับประจำ Locall Thailand อดีตนักมวย AKA ยอดรัก ศิษย์วัดเทพ
สถานที่ : หลังวัดราชนัดดาราม
“พี่นี่เจอบ่อยเลย สถานที่ตรงเนี้ย พี่เจอด้วยตัวเองเลย พี่เห็นเป็นคนรูปร่างใหญ่ คนสูงใหญ่ เป็นผู้ชาย ยืนอยู่ตรงนี้ เห็นบ่อย ตาเราก็ไม่ได้ฝาด ทรงผมคนโบราณนึกออกมะ? พี่เจอหลายครั้ง เจอตอนเคาะประตู พี่ก็รีบเปิดออกเลย มาดู เปิดมาไม่มีใคร บางทีพี่ก็ถามแฟนใครเดินผ่านเข้าห้องน้ำวะ เมื่อกี๊เห็นคนเดินผ่านแวบเข้าห้องน้ำ เห็นตรงนี้บ่อย “พ่อก็เคยพูดให้ฟัง บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์สมัยก่อนเค้าเรียกประตูผี โรคห่ามาลงก็เลยทำให้คนทั้งในวังทั้งนอกวังตายกันแบบเกลื่อนก็ขนศพข้ามสะพานนี้มาเนี่ย”
เรื่องเล่าจาก : ครูหิรัญ บ้านบาตร ครูช่างศิลปหัตถกรรม
สถานที่ : สะพานสมมตอมรมารค (สะ-พาน-สม-มด-อะ-มอน-มาก) ถนนบำรุงเมือง ปากทางชุมชนบ้านบาตร
“ประตูผีมีผีที่ไหน อยู่มาตั้งแต่เกิดยังไม่เคยเจอเลย เป็นแค่ชื่อเรียกเท่านั้นแหละ”
เจ๊หงส์ ร้านก๋วยเตี๋ยวไหหลำในซอยบอกกับเรา
บริเวณเส้นถนนดินสอที่ร้านรวงปิดประตูสนิท ทางม้าลายที่นาน ๆ ทีกว่าจะมีรถผ่านมาคัน ภาพแบบนี้หาไม่ได้ในตอนกลางวันแน่ ๆ
หลังป้อมตำรวจเยื้องกับเสาชิงช้า เป็นที่ตั้งของ ‘ย่งฮั้ว ภัตตาคาร’ ภัตตาคารที่ตั้งตระหง่านขนาบข้างเสาชิงช้ามากว่า 70 ปี ที่แห่งนี้ได้บันทึกประวัติศาสตร์การกินของผู้คนแถวนี้ไว้ ตลอดเวลาอันยาวนานภัตตาคารแห่งนี้ได้เปลี่ยนไปหลายรูปแบบตั้งแต่สภากาแฟ, สุกี้หม้อไฟ, โต๊ะจีน ซึ่งหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยังคงหลงเหลืออยู่และถูกเก็บไว้อย่างดีในรูปแบบของความอร่อยอย่างเมนูเด็ดของร้าน ‘ไก่ไฟแดง’ ที่หาทานที่ไหนไม่ได้ง่าย ๆ
นิวย่งฮั้วเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 น. – 21:00 น.
“ยุคก่อนยังเจอกันอยู่ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนเจอแล้ว ผีแพ้กรุงเทพ ไปอยู่ต่างจังหวัดหมด”
เรื่องเล่าจาก…พี่แจ้ พี่คนขับประจำ Locall Thailand อดีตนักมวย AKA ยอดรัก ศิษย์วัดเทพ
แสงไฟข้างทางยามค่ำคืน ส่องให้ตึกโค้งของร้านแสงธรรมประทีป ร้านขายสังฆภัณฑ์อันเป็นอาชีพดั้งเดิมของคนที่นี่โดดเด่นแตกต่างไปจากตอนกลางวัน
‘ย่านประตูผี’ แห่งนี้ ยังมีสถานที่อีกหลายที่ อาหารอีกหลายอย่าง วิถีชีวิตต่าง ๆ ยามค่ำคืน ที่รอให้คุณได้ออกมาค้นหาสองเท้าก้าวเข้ามา สองตาเปิดใจ แล้วมามองเมืองมุมใหม่กันเถอะ : )
Contributors
ณัฐวรรณ ล้วนใจบุญธรรม
Writerชอบเรื่องเก่าๆรวมถึงเรื่องเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้วก็เก่าแล้ว